ทีม-เกษตรสาร
Close Me!

ทีม-เกษตรสาร

ทีม-เกษตรสาร ปีที่ 6 ฉบับที่ 38 เดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างต่อเนื่องในระยะติดผลไปจนถึงระยะกา..

ทีม-เกษตรสาร

ทีม-เกษตรสาร

ปีที่ 6 ฉบับที่ 38 เดือนมกราคม พ.ศ. 2562

ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างต่อเนื่องในระยะติดผลไปจนถึงระยะการสุก-แก่

    ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อนจัดความเข้มของแสงสูง ความชื้นในอากาศต่ําในระยะ ที่ทุเรียนติดผลอ่อน-ขยายผล หากพืชไม้ผลขาดธาตุอาหารในการสร้างความสมบูรณ์และ ต้านทานต่อสภาพแวดล้อมอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่นการหลุดร่วงของผล,การชะงัก การเจริญเติบโต อาจเกิดอาการ อาการลูกบิด-หนามแดง ผลโตช้าหรือไม่โต เท่าที่ควร

    ธาตุอาหารที่มีบทบาทสําคัญเป็นอย่างยิ่งในระยะ ติดผลอ่อน ได้แก่ไนโตรเจน, แคลเซียม, โบรอน, แมกนีเซียม, สังกะสี ซึ่งพืชมีความต้องการอย่างต่อเนื่องไปจนถึงระยะเก็บ ผลผลิต โดยแคลเซียม และโบรอน จะทํางานร่วมกัน สร้างความแข็งแรงของเซลล์บริเวณขั้วผล ลดการหลุดร่วงช่วยในการขยายผล เนื่องจากแคลเซียมเป็นองค์ประกอบของเซลล์พืชช่วยใน การสร้างขยายเซลล์ใหม่ ขยายขนาดของผล และไนโตรเจนจะเป็นตัวสร้างเนื้อเพิ่มน้ําหนัก โดย ธาตุแมกนีเซียม,สังกะสี และกลุ่มธาตุอาหารเสริมอื่นๆช่วยให้ไนโตรเจน เปลี่ยนเป็นกรดอะมิ โน, โปรตีน เป็นอาหารให้พืชในการเลี้ยงผลผลิตและส่วนต่างๆผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสง

    หน้าที่อีกประการหนึ่งของแคลเซียม คือการควบคุมการไหลเวียนของน้ําภายในต้นพืช ในสภาวะที่อากาศร้อนแสงแดดจัดจะทําให้พืชมีการคายน้ําสูงแคลเซียมจะถูกดึงไปยังส่วนที่มี การคายน้ําสูง ได้รับแสงแดดจัด,ปลายยอด. เมื่อแคลเซียมมีอยู่อย่างจํากัด อาจทําให้เกิดการหลุด ร่วงของผลภายในกิ่ง, การชะงักการเจริญเติบโตอาการลูกบิด,หนามแดงหรือการถ่ายใบล่างอย่าง หนัก ส่วนใบบริเวณที่ได้แสงแดดจัด จะเริ่มเกิดอาการใบเหลือง-ซีด และอาการใบไหม้ (sunburn) ซึ่งมาจากการขาดแคลเซียม

     การใช้แคลเซียมให้เกิดประโยชน์กับพืชจะต้องเป็นแคลเซียมที่มีคุณภาพดีในรูปที่พืช สามารถดูดซับได้ และพืชจะรับได้ดีผ่านทางระบบรากฝอยแล้วส่งไปยังส่วนต่างๆของต้น ผ่าน ทางท่อน้ํา(Xylem) ส่งไปยังใบพืช โดยมีกลุ่มธาตุอาหาร ที่จะเสริมประสิทธิภาพกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง ได้แก่ แมกนีเซียม,สังกะสี,เหล็ก,ทองแดง,แมงกานีส เปลี่ยนไนโตรเจนให้ เป็น กรดอะมิโน-โปรตีน เป็นอาหารให้พืช ในการเลี้ยงผลสร้างการเจริญเติบโตต่อไป

    ปัญหาต่างๆ ที่มักจะพบในระยะของการติดผลเช่นเมื่อให้น้ําแล้วเกิดการหลุดร่วงของผล หรือใบ, การแตกใบใหม่, การใช้ปุ๋ยที่มีตัวหน้าสูงหรือแม้แต่สูตรเสมอแล้วเกิดการหลุดร่วงของ ผล, ส่วนใหญ่มักมาจากการขาดธาตุอาหาร โดยเฉพาะแคลเซียมดังนั้นในระยะของการติดผลนี้ ทีมเกษตรขอนําเสนอวิธีการบํารุงผล ให้ได้ผลผลิตและคุณภาพดี ในสภาพต้นที่สมบูรณ์ ลด อาการต้นโทรม โดยการใช้ธาตุอาหารเสริมทางดินอย่างต่อเนื่อง รักษาความชื้นของดินบริเวณ รากฝอย ให้สม่ําเสมอ ร่วมกับการใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง และการฉีดพ่นทางใบตามระยะเพื่อ การบํารุงหรือการแก้ปัญหาเฉพาะช่วงดังนี้

การใช้ธาตุอาหารพืชทางดิน

    เพื่อการบํารุงต้น-ใบ,คอก-ผล ตามระยะให้มีการพัฒนาทุกส่วนอย่างสมบูรณ์ ป้องกันปัญหา การขาดธาตุอาหารในช่วงที่พืชต้องการมาก เช่น มีใบอ่อนแซมผล ติดผลหลายรุ่น มีดอกรุ่นหลัง ฯลฯ ซึ่งจะทําให้พืชได้รับธาตุอาหารตามต้องการตลอดเวลาที่ดินมีความชื้น และส่งไปยังส่วนต่างๆของ พืชได้ โดยการใช้

อัตราการใช้ น้ํา 200 ลิตร

1. ที.เค.ซอยล์ 1      1 ลิตร

2. ที.เค.ซอยล์ 2      1 ลิตร

3. เซอร์คอน            1 ลิตร

4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 1 กก.

    ฉีดพ่นหรือราดลงดินขณะที่ดินมีความชื้น บริเวณรากฝอย 20-25 วัน ครั้ง จากนั้นอีก2-3 วัน ให้ใช้ปุ๋ยเคมี สูตรตัวหน้าสูง ในโตรเจน (N) หรือสูตรเสมอ+ยูเรีย อัตรา 1:1 ให้น้ํารักษาความชื้นใน ดินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณรากฝอย

 

การใช้ธาตุอาหารพืชทางใบ

1.การเปิดตาดอก

    ในกรณีที่ตาคอกเริ่มพัฒนา อาจจะเป็นดอกรุ่นหลังที่ต้องการเพิ่ม เพื่อให้ดอกพัฒนาได้ดีขึ้นอย่าง ปลอดภัย แม้จะมีดอกหรือผลรุ่นอื่นๆดังนี้

อัตราการใช้ น้ํา 200 ลิตร

1. ที.เค.-บูชเตอร์           300 - 500 ซีซี

2. ที.เค.ซี (ธาตุสังกะสี)  300 ซีซี

3. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0)      300 -500 กรัม

4. ซูเปอร์แอ็คชั่น          100 ซีซี

ฉีดพ่นให้ทั่วตาดอกและใบ 1-2 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วัน / ครั้ง

2.ลดปัญหาการหลุดร่วงของดอกและผล เร่งการเจริญเติบโต

    ช่วยลดปัญหาการหลุดร่วงของดอกและผล ทําให้การเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง หาก ฉีดพ่นในระยะก่อนดอกบาน 1-2 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วัน จะช่วยให้การผสมเกสรติดผลดียิ่งขึ้น ในระยะ ติดผลอ่อนป้องกันผลร่วง ลดอาการลูกบิด,หนามแดง,ผลร่วง

อัตราการใช้ น้ํา 200 ลิตร

1. ซูเปอร์ ดี              100 ซีซี.

2. โมฟรุท                300 ซีซี.

3. นิบ                      100 ซีซี.

4.ไมโครมิกซ์เอฟ      300 ซีซี.

5. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0)  300 กรัม

6.ซูเปอร์แอ็คชั่น       100 ซีซี.

    ในกรณีแก้ปัญหาลดการหลุดร่วงของดอกและผลให้ผสมโมฟรุทกับปุ๋ยยูเรียให้ละลายก่อน นําไปผสมในน้ํา จะได้ผลดียิ่งขึ้น โดยฉีดพ่นไปยังคอกและใบ 3-5 วัน/ครั้ง

3.การบํารุงดอกและใบ

    การบํารุงดอกและใบ เสริมประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสง ประสานการทํางานกับธาตุอาหาร ทางดิน โดยการใช้

อัตราการใช้ น้ํา 200 ลิตร

1. ไมโครมิกซ์เอฟ    300 ซีซี.

2. ที.เค.-แคล          300 ซีซี.

3. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 300   กรัม.

4. ซูเปอร์แอ็คชั่น     100 ซีซี.

ฉีดพ่นทางใบ ทุกๆ 10-15 วัน/ครั้ง

4.การเร่งใบอ่อนให้เข้าเพสลาดได้เร็วขึ้น

    ในกรณีที่มีใบอ่อนออกแซม หรือมีใบอ่อนออกมาก ขณะที่ออกดอกติดผล ให้มีใบเข้มได้เร็วขึ้น ลดผลกระทบที่ตามมา โดยการใช้

อัตราการใช้ / น้ํา 200 ลิตร

1. ไฮแมก              300 ซีซี.

2. ที.เค.แคล          300 ซีซี.

3. ไมโครมิกซ์ เอฟ  300 ซีซี.

4. ปุ๋ย (13-0-46)     300- 400 กรัม

5. ซูเปอร์แอ็คชั่น    100 ซีซี.

ฉีดพ่นไปยังใบอ่อนในระยะที่ใบอ่อนเริ่มกาง 2-3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วัน / ครั้ง

มีปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์ ติดต่อ อัศว์ สวนจันท์ 080 562 2802