ทีม-เกษตรสาร
ทีม-เกษตรสาร ปีที่ 6 ฉบับที่ 38 เดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างต่อเนื่องในระยะติดผลไปจนถึงระยะกา..
ทีม-เกษตรสาร ปีที่ 6 ฉบับที่ 38 เดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างต่อเนื่องในระยะติดผลไปจนถึงระยะกา..
ทีม-เกษตรสาร ปีที่ 6 ฉบับที่ 38 เดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างต่อเนื่องในระยะติดผลไปจนถึงระยะกา..
ธาตุอาหารเสริมพืชมีความสำคัญอย่างไร ? ดินที่ใช้ปลูกพืชติดต่อกันมานาน เรามักจะพบบ่อยครั้งว่าพืชมีอาการขาดธาตุอาหา..
การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพเมื่อพืชไม้ผลแตกใบอ่อนในระยะที่ออกดอกและติดผล ขณะที่พืชไม้ผลอยู่ในระยะออกดอกและติดผล ..
กระบวนการทำให้พืชไม้ผลออกดอกติดผล เลื่อนศักดิ์ วัฒนกุล ในต้นพืชมีกระบวนการเผาผลาญอาหารเพื่อให้เกิดพลังงานต่างๆ ทั้..
การบำรุงไม้ผลในระยะขยายผล โดยการใช้ธาตุอาหารเสริมให้เกิดประสิทธิภาพ พืชไม้ผลในระยะที่ติดผล มีความต้องการธาตุอาหารอย่า..
ดินที่ใช้ปลูกพืชติดต่อกันมานาน เรามักจะพบบ่อยครั้งว่าพืชมีอาการขาดธาตุอาหารใด ธาตุอาหารหนึ่งหรือหลายธาตุของกลุ่มธาตุอาหารเสริมพืชเช่น ธาตุสังกะสี(Zn), ธาตุเหล็ก(Fe), ธาตุทองแดง(Cu), ธาตุแมงกานีส(Mn), ธาตุโบรอน(B), ธาตุโมลิบดินั่ม(Mo) เป็นต้น ในสถานการณ์ที่ดินขาดธาตุอาหารเสริมจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การให้ธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซี่ยม) และธาตุอาหารรอง (แคลเซี่ยม, แมกนีเซี่ยม, กำมะถัน) กับพืชให้เกิดประสิทธิภาพได้ ถึงแม้ว่าพืชมีความต้องการธาตุอาหารเสริมในปริมาณน้อยมาก แต่ผลที่พืชขาดธาตุหรือการเกิดพิษกับพืชก็สามารถที่จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากเกี่ยวกับผลผลิตของพืชเช่นเดียวกับการขาด ธาตุอาหารหลักเช่นกัน
มีเหตุผลหลายประการที่เราจะต้องให้ธาตุอาหารเสริมพืชอย่างเพียงพอเพื่อการเจริญเติบโตของพืชเช่น
1. การให้ปุ๋ย (ธาตุอาหารหลัก) เพิ่มสูงขึ้นเพื่อเพิ่มผลผลิต ก็หมายถึงพืชจะต้องดูดใช้ ธาตุอาหารเสริมจากดินมากขึ้นด้วยเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ทำให้ธาตุอาหารเสริมในดินลดน้อยลงไป
2. ธาตุอาหารเสริมที่เคยมีปะปนกับปุ๋ยก็จะไม่มีอีกต่อไป ในกรณีที่เราเข้มงวดการวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ของปุ๋ย
3. พันธุ์พืชที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้มีผลผลิตต่อไร่สูงก็จะส่งผลไปยังการดูดใช้ธาตุอาหารเสริมจากดินออกไปใช้มากขึ้นด้วย
4. การปรับระดับหน้าดินก็จะทำให้เกิดการสูญเสียธาตุอาหารเสริมที่มีอยู่หน้าดินไป พืชก็จะแสดงอาการขาดธาตุบริเวณดินที่ถูกถากออกไป
5. การใช้ฟอสฟอรัสสูงเกินไปไม่ว่าจะอยู่ในรูปของธรรมชาติหรือในรูปของปุ๋ย เราจะพบว่าในดินบริเวณนั้นจะนำไปสู่การขาดธาตุอาหารเสริมพืช พืชที่ขาดธาตุอาหารเสริมจะมีผลอย่างเด่นชัดกับผลผลิตและคุณภาพของผลผลิตพืชเช่นเดียวกับการขาดธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง เช่นเดียวกันเมื่อพืชได้รับธาตุอาหารเสริมมากเกินไปจนเกิดเป็นพิษ ก็จะมีผลให้ความเสียหายต่อผลผลิตละคุณภาพของผลผลิตพืชเช่นกัน การที่พืชขาดธาตุอาหารเสริมอย่างรุนแรงจะทำให้พืชสูญเสียผลผลิตได้ถึงร้อยเปอร์เซนต์
2. การบำรุงไม้ผลในระยะต้นเล็ก และไม้ผลทั่วไป
ไม้ผลในระยะต้นเล็กเริ่มปลูกใหม่ และไม้ผลทั่วไป มีความต้องการธาตุอาหารครบทุกหมู่ ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม เพื่อการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง สำหรับพืชไม้ผลที่เริ่มปลูกใหม่ในดินที่มีการปรับหน้าดิน หรือการนำเอาดินชั้นล่างขึ้นมาถมหน้าดิน ซึ่งอาจจะเป็นชั้นดินที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการปลูกพืช เช่น อินทรีย์วัตถุ ธาตุอาหารต่ำ สำหรับดินที่มีการปรับพื้นที่ ควรเติมอินทรีย์วัตถุ เช่นปุ๋ยหมัก-ปุ๋ยคอก รองพื้น เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างดิน จากนั้นจึงเติมธาตุอาหาร ในกลุ่มของธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม สำหรับพืชที่ปลูกมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วและไม้ผลทั่วไป ก็ยังคงต้องการธาตุอาหารในกลุ่มเดียวกันนี้เพื่อการเจริญเติบโต ตามระยะสามารถปฏิบัติได้โดยการให้ทางดินและเสริมเพิ่มด้วยการฉีดพ่นทางใบ ดังนี้
การใช้ธาตุอาหารพืชทางดิน
เป็นการเติมธาตุอาหารเพื่อการบำรุง สามารถใช้ได้ผลดีกับพืช ตั้งแต่ระยะเริ่มปลูก ไปจนถึงระยะให้ผลผลิตแล้ว สามารถใช้ได้ทุกระยะเหมาะกับพืชไม้ผลทุกชนิด โดยการปฏิบัติดังนี้
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร โดยผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ที.เค.- ซอยล์ 1 1 ลิตร
2. ที.เค.- ซอยล์ 2 1 ลิตร
3. ที.เค.- พลัส 1 ลิตร
4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 1– 1.5 ก.ก.
ฉีดพ่นหรือราดลงดิน บริเวณรากฝอย ขณะที่ดินมีความชื้น บริเวณรากฝอยให้ทั่ว ประมาณ 20-30 วัน/ครั้ง จากนั้นอีก 3-5 วัน ให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีตัวหน้าสูง(ไนโตรเจน) ตาม
การใช้ธาตุอาหารพืชทางใบ
เพื่อเป็นการเสริมเพิ่มความสมบูรณ์ ประสานการทำงานกับธาตุอาหารพืชทางดินให้เกิดประสิทธิภาพ โดยการฉีดพ่นทางใบ ดังนี้
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ไมโครมิกซ์ เอฟ 200 - 300 ซี.ซี.
2. ที.เค. - แคล (แคลเซียม พลัส) 200 - 300 ซี.ซี.
3. อัลจินิน 200 - 300 ซี.ซี
4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 200 - 300 กรัม
ฉีดพ่นทางใบ 10-15 วัน/ครั้ง
3. การบำรุงเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค ในพืชไม้ผล
โรคพืชหลายชนิดเกิดมาจากความอ่อนแอของพืชเป็นส่วนใหญ่ หรือ เกิดในสภาวะแวดล้อมของโรคที่มีการระบาดรุนแรงในขณะที่พืชอ่อนแอ ซึ่งโดยปกติตามธรรมชาติ พืชสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคได้ หากมีธาตุอาหารอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะธาตุ สังกะสี(Zn), แคลเซี่ยม(Ca), โบรอน(B) และแมกนีเซี่ยม(Mg) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างการเจริญเติบโต, เพิ่มความสมบูรณ์- แข็งแรง, สร้างภูมิต้านทานต่อโรค ซึ่งสามารถใช้ได้โดยการให้ทางดิน โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที.เค.- ซอยล์ 1 และที.เค.- ซอยล์ 2 และการฉีดพ่นทางใบ โดยการใช้ไมโครมิกซ์ เอฟ และ ที.เค.- แคล ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี
สาเหตุอีกประการ ที่ทำให้โรคพืชระบาดมาก คือ อาหารของเชื้อซึ่งก่อโรค ต้องการอาหารเช่นเดียวกันกับพืช ในกลุ่มของไนเตรทที่มีในพืช หากใช้ธาตุอาหารเพื่อเปลี่ยนไนเตรท เป็นกรดอะมิโนและโปรตีน เป็นอาหารให้กับพืช ลดการระบาดของเชื้อราลงได้ ซึ่งสามารถปฏิบัติได้โดยการใช้ ซูเปอร์ดี ร่วมกับสารป้องกันกำจัดเชื้อราให้เกิดประสิทธิภาพดีขึ้นดังนี้
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร
1. ซูเปอร์ ดี 100 ซี.ซี.
2. สารป้องกันกำจัดเชื้อรา (ตามอัตราแนะนำ)
3. ซูเปอร์ แอ๊คชั่น 60 -100 ซี.ซี.
4. การบำรุงต้นและใบหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตของพืชไม้ผล
หลังจากการให้ผลผลิตแล้ว พืชได้ใช้ธาตุอาหารที่สะสมมาไปกับการออกผลผลิต และต้องการธาตุอาหาร เพื่อการบำรุง สร้างการเจริญเติบโตต่อไป โดยในชั้นต้นนี้พืชต้องการธาตุอาหารเพื่อการแตกใบใหม่, ขยายลำต้น, ขยายระบบรากฝอย, เพิ่มความสมบูรณ์-แข็งแรง ซึ่งสามารถปฏิบัติได้โดยการใช้ธาตุอาหารพืชทางดิน และการฉีดพ่นทางใบ ดังนี้
การใช้ธาตุอาหารพืชทางดิน
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ที.เค.-ซอยล์ 1 1 ลิตร
2. ที.เค.-ซอยล์ 2 1 ลิตร
3. ที.เค.-พลัส 1 ลิตร
4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 1-1.5 ก.ก.
นำไปฉีดพ่นหรือราดลงดิน ขณะที่ดินมีความชื้น 20-30 ต้น ( สำหรับต้นทุเรียน,มังคุดฯลฯ อายุประมาณ 7-10 ปี ) ประมาณ 20-30 วัน/ครั้ง ซึ่งสามารถใช้ต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี หลังจากนั้น 2-3 วันให้ใช้ปุ๋ยเคมี สูตรที่มีตัวหน้า, ไนโตรเจนสูง หรือปุ๋ยยูเรีย+สูตรเสมอ อัตรา 1:1 ตามขนาดต้นเพื่อสร้างการเจริญเติบโต
การใช้ธาตุอาหารพืชทางใบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์ด้วยแสง เพิ่มความสมบูรณ์ ประสานการทำงานกับธาตุอาหารทางดิน เตรียมความพร้อมในการสร้างใบใหม่ โดยการฉีดพ่นดังนี้
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ไมโครมิกซ์ เอฟ 300 ซี.ซี.
2. ที.เค-แคล (แคลเซียม พลัส) 300 ซี.ซี.
3. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 300 - 400 กรัม
4. ซูเปอร์แอ็คชั่น 100 ซี.ซี.
ฉีดพ่นทางใบ 10-15 วัน/ครั้ง
5. การดึงใบอ่อน
การสร้างใบอ่อนชุดใหม่ที่มีคุณภาพ สามารถปฏิบัติได้โดยการใช้ธาตุอาหารทางดิน เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ แล้วฉีดพ่นธาตุอาหารทางใบตามระยะเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของพืชให้ดีขึ้น ดังนี้
การใช้ธาตุอาหารพืชทางดิน
ให้เกิดความสมบูรณ์ โดยพืชสามารถดูดซับได้ตลอดเวลาและต่อเนื่อง ดังนี้
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ที.เค.-ซอยล์ 1 1 ลิตร
2. ที.เค.-ซอยล์ 2 1 ลิตร
3. ที.เค.-พลัส 1 ลิตร
4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 1-1.5 ก.ก.
นำไปฉีดพ่นหรือราดลงดินขณะที่ดินมีความชื้น ประมาณ 20-30 ต้น 20-30 วัน/ครั้ง หลังจากนั้น 2-3วัน จึงให้ปุ๋ยเคมีตามโดยการใช้ปุ๋ยตัวหน้าสูง หรืออาจจะใช้ปุ๋ยยูเรีย+สูตรเสมอในอัตรา 1:1
การใช้ธาตุอาหารพืชทางใบ เพื่อการดึงใบอ่อน การดึงใบอ่อนไม้ผล เพื่อการแตกใบอย่างสม่ำเสมอสามารถใช้ได้กับไม้ผลทุกชนิด ทั้ง ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ฯลฯ โดยการฉีดพ่นทางใบ ในระยะที่พืชพร้อมแตกใบใหม่ ดังนี้
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร
1. อัลจินิน 300 - 500 ซี.ซี.
2. ทีเค ซี (สังกะสี) 300 - 500 ซี.ซี.
3. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 300 - 400 กรัม
4. ซูเปอร์แอ็คชั่น 60 - 100 ซี.ซี.
คนให้เข้ากัน แล้วนำไปฉีดให้ทั่วทั้งต้น 1-2 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน
การบำรุงต้น-ใบ เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์
หลังจากที่มีใบอ่อนออกมาแล้วทำให้ใบเขียว สมบูรณ์ ช่วยให้พืชดูดซับปุ๋ยไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงได้ดี เพิ่มความแข็งแรง ต้านทานโรคโดยการฉีดพ่นทางใบ หลังจากที่แตกใบอ่อนแล้ว และสามารถฉีดพ่นเพื่อการบำรุงได้ทุกระยะของพืช
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร
1. ไมโครมิกซ์ เอฟ 300 - 500 ซี.ซี.
2. ทีเค แคล (แคลเซียมพลัส) 300 - 500 ซี.ซี.
3. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 300 - 400 กรัม
4. ซูเปอร์แอ็คชั่น 60 - 100 ซี.ซี.
ฉีดพ่นทางใบทุกๆ 10-15 วัน/ครั้ง
การเร่งให้ใบเข้าเพสลาดเร็วขึ้น
การทำให้ใบอ่อนเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยการเร่งให้เข้าเพสลาดเร็วขึ้น เพื่อการสร้างอาหารสร้างการเจริญเติบโตของอวัยวะทุกส่วนของพืชรวมทั้งการสะสมอาหารเพื่อการออกดอกได้สม่ำเสมอดียิ่งขึ้น
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร
1. ไฮแมก 300 - 500 ซี.ซี.
2. ทีเค แคล (แคลเซียมพลัส) 300 - 500 ซี.ซี.
3. ปุ๋ยโพแทสเซียมไนเตรท (13-0-46) 300 - 400 กรัม
4. ซูเปอร์แอ็คชั่น 60 - 100 ซี.ซี.
*** ในการทำใบในชุดถัดไปก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้
6. การสะสมอาหาร เตรียมความพร้อมในการออกดอก
ในระยะที่ใบชุดสุดท้ายเริ่มเข้าเพสลาด ซึ่งจะเปิดใบชุดที่พืชใช้ในการสะสมอาหาร สร้างตาดอก เป็นระยะที่พืชต้องการธาตุอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุอาหารที่มีความสำคัญในระยะนี้ คือแคลเซียมและโบรอน ที่จะมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างแป้งและน้ำตาล ส่งเสริมการออกดอก ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
การใช้ธาตุอาหารทางดิน
เพื่อสร้างความสมบูรณ์-สะสมอาหาร เตรียมความพร้อมในการออกดอก
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ที.เค.-ซอยล์ 1 1 ลิตร
2. ที.เค.-ซอยล์ 2 1 ลิตร
3. เซอร์คอน 1 ลิตร
4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 1- 1.5 ก.ก.
ฉีดพ่นหรือราดลงดินบริเวณรากฝอยขณะที่ดินมีความชื้น 20-30 ต้น 20-30 วัน/ครั้ง หลังจากนั้น 2-3 วัน จึงให้ปุ๋ยเคมีตาม
การใช้ธาตุอาหารทางใบ ชุดสะสมอาหาร- สร้างตาดอก
เพื่อการบำรุงใบอย่างสมบูรณ์ เพื่อสะสมอาหารในการออกดอก
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ไมโครมิกซ์ เอฟ 300 - 500 ซี.ซี.
2. ทีเค แคล (แคลเซียมพลัส) 300 - 500 ซี.ซี.
3. ที.เค.-บูชเตอร์ 300 - 500 ซี.ซี.
4. ปุ๋ยยูเรีย 300 - 400 กรัม
5. ซูเปอร์แอ็คชั่น 60 - 100 ซี.ซี.
6. ยากำจัดโรค หรือแมลง (ถ้ามี)
ฉีดพ่นทางใบเพื่อการบำรุง 10-15 วัน / ครั้ง
โดยฉีดพ่นสลับกับชุดสร้างดอก ดังนี้
การสร้างตาดอก
นิบจะเป็นศูนย์กลางของกลุ่มอาหารพืชที่สร้างตาดอกของพืชไม้ผล
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ซูเปอร์ดี 100 ซี.ซี.
2. โมฟรุท 200-300 ซี.ซี.
3. นิบ 100 ซี.ซี.
4. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 300 - 400 กรัม
5. ซูเปอร์แอ็คชั่น 60 - 100 ซี.ซี.
นำไปฉีดพ่นทางใบ 15-20 วัน / ครั้ง
7. การเปิดตาดอก
เพื่อให้พืชออกดอกได้สม่ำเสมอ เพิ่มปริมาณดอกออกในระยะใกล้เคียงกันได้มากขึ้น โดยการฉีดพ่นในระยะที่พืชมีความพร้อมในการออกดอก
อัตรา / น้ำ 200 ลิตร ผสมให้เข้ากับน้ำทีละอย่าง
1. ที.เค-บูชเตอร์ 300 - 500 ซี.ซี.
2. ที.เค. – ซี (สังกะสี) 300 ซี.ซี.
3. ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 300 - 400 กรัม
4. ซูเปอร์แอ็คชั่น 60 - 100 ซี.ซี.
ฉีดพ่นทางใบและตามกิ่งที่มีตาดอก 1-2 ครั้ง ห่างกัน 3-5 วัน
เนื้อหายังไม่จบนะครับ แล้วจะมาอัพเดทต่อ ต้องติดตามกันต่อไป ..